ในสมัยโบราณ การพัฒนาเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารต้องดำเนินไปตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่แบบง่ายไปจนถึงแบบซับซ้อน เมื่อเวลาผ่านไป ความจำเป็นในการจัดการและปรุงอาหารก็เพิ่มมากขึ้น และการใช้เขียงก็กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น
เขียงในยุคแรกๆ อาจมีลักษณะค่อนข้างเรียบง่ายและทำจากวัสดุหลากหลาย เช่น ไม้และหิน ต่อมาไม้ไผ่ถูกนำมาใช้ทำเขียงมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีข้อดี เช่น น้ำหนักเบา แข็งเล็กน้อย และมีพื้นผิวที่สวยงาม
กระบวนการผลิตเขียงไม้ไผ่ก็พัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การผลิตเขียงไม้ไผ่และไม้สมัยใหม่มักผ่านขั้นตอนการประมวลผลต่างๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การถอดไม้ไผ่ ตัดไม้ไผ่ให้มีความยาวเท่ากัน การมัด การอบด้วยอุณหภูมิสูง เป็นต้น
เมื่อเทียบกับเขียงไม้แบบดั้งเดิม เขียงไม้ไผ่มีข้อดีดังต่อไปนี้:
1. เขียงไม้ไผ่มักจะมีราคาถูกกว่าเขียงไม้เนื้อแข็ง
2. พื้นผิวของเขียงไม้ไผ่ค่อนข้างเบา สะดวกต่อการใช้งาน และพื้นผิวเรียบ ไม่ทิ้งคราบอาหารง่าย ถูกสุขอนามัยมากกว่า
3. เขียงไม้ไผ่ที่ผ่านการอบด้วยความร้อนสูงและแรงดันสูง ทำให้มีความทนทานต่อการสึกหรอ แข็ง มีความเหนียว แข็งแกร่ง ไม่แตกร้าวหรือเป็นตะกรันง่าย
4. ไม้ไผ่มีฤทธิ์ยับยั้งการแพร่พันธุ์ของแบคทีเรีย
5. เขียงไม้ไผ่มีกลิ่นหอมธรรมชาติของไม้ไผ่
6. สิ่งสกปรกบนเขียงไม้ไผ่จะไม่ถูกอุดตันในช่องว่าง ทำความสะอาดได้ง่ายและทำให้แห้งด้วยอากาศ และจะไม่มีเชื้อราหรือกลิ่น
ปัจจุบันผู้ที่ชื่นชอบห้องครัวจึงนิยมเลือกเขียงไม้ไผ่เป็นเขียงหลักในห้องครัวมากขึ้น
เวลาโพสต์ : 15 ส.ค. 2567